


















ดวงพระชะตาของเสด็จใน กรมหลวงชุมพร ฯ พระราชบิดาแห่งราชนาวีไทยนั้น พระลัคนาของพระองค์อยู่ในราศีพฤษภ (ธาตุดิน) ก็จริง แต่ก็มีดาวจันทร์ (๒) เกษตร ธาตุน้ำในราศีกรกฎ โยคหน้า และนำหน้าในตำแหน่งศูนยพาหะกับแบคคัส (บ) เจ้าเรือนลัคน์ โดยมีดาวอังคาร (๓) เกษตร ธาตุน้ำในราศีพิจิกอีกดวงหนึ่ง เล็งลัคน์ และมีเนปจูน (น) เจ้าสมุทร ธาตุน้ำอีกดวงหนึ่ง โยคหลังแบคคัส (บ) เจ้าเรือนลัคน์ อันลักษณะของดาวธาตุน้ำสัมพันธ์กับลัคนา และดาวเจ้าเรือนลัคน์เช่นนี้ โดยเฉพาะเป็นดาวที่มีศักดิ์สูงเป็นเกษตรถึงสองดวง ย่อมส่งอิทธิพลให้ดวงพระชะตาของพระองค์ ต้องผูกพันกับน้ำ ด้วยการเป็นทหารเรือ โดยได้เสด็จไปศึกษาวิชาการด้านทหารเรือที่อังกฤษ กลับมาก็สร้างกองทัพเรืออย่างเข้มแข็ง ด้วยการฝึกสอนนักเรียนนายเรือ นำไปฝึกภาคสนามในท้องทะเล และเรียกนายทหารเรือเก่า ๆ มาฝึกอบรมให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจในยุทธวิธีแผนใหม่ เรียกว่า ปรับปรุงหมดทั้งกองทัพเลยทีเดียว ดาวอังคาร (๓) ดาวแห่งการทหาร และกล้าแข็ง เป็นเกษตรเล็งลัคน์ ทำให้พระองค์ไม่ทรงเกรงกลัวใคร ทรงกล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด ราหู (๘) ดาวเจ้าเรือนกฎุมพะ หมายถึง การเจรจา ตัวที่หนึ่ง อยู่ภพมรณะ เกตุ (๙) เจ้าเรือนกฎุมพะ ตัวที่สอง ก็อยู่วินาศนะ ดังนั้น จึงเกิดเรื่องขัดใจกับผู้ใหญ่ในกระทรวงอย่างรุนแรง ถึงกับมีพระบรมราชโองการให้ออกจากราชการ เป็นนายทหารกองหนุน ตั้งแต่วันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ในขณะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ และเจ้ากรมยุทธศึกษา ในขณะที่ทรงมีพระชนมายุเพียง ๓๐ พรรษา เศษ ๆ เท่านั้น พลูโต (พ) เจ้าเรือนวินาศนะ ที่กุมพระลัคนา ทำให้พระองค์สนใจศาสตร์เร้นลับ (วินาศนะ แปลว่า เร้นลับ ไม่เปิดเผย) ดาวพลูโตเป็นดาวเกี่ยวกับการศึกษาวิชาการต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณ และการแพทย์ ก่อนหน้าที่จะถูกปลดออกจากราชการ ทรงสนพระทัยศึกษาเรื่องแพทย์แผนโบราณจากแพทย์หลวง ทรงเชี่ยวชาญชนิดที่เรียกว่า เขียนตำรายา ที่ชื่อว่า “อติสารวรรค” ด้วยลายพระหัตถ์ลงบนใบลานหลายต่อหลายเล่ม
เมื่อทรงออกจากราชการ ทรงถอดเครื่องแบบทหารเรือ มาทรงฉลองพระองค์แบบง่าย ๆ คือ “เสื้อราชปะแตน” นุ่งผ้าม่วงแบบสมัยนิยม ถือไม้เท้าและกระเป๋าร่วมยา เสด็จออกจากวังนางเลิ้ง ทรงรถม้าขับด้วยพระองค์เอง ทรงรักษาคนไข้ เยี่ยมคนไข้ตามบ้านเรือนต่าง ๆ ในนามของ “หมอพร” เป็น “หมอเทวดา” ที่ไม่ถือพระองค์ รักษาให้ฟรี ๆ รายใดขัดสนยากจน ยังทรงพระราชทานเงินทองให้อีกด้วย จึงทรงเป็นที่รักใคร่ เคารพนับถือของประชาชนละแวกบ้านเรือนเคียง จากนางเลิ้ง เทเวศร์ บางซื่อ สามเสน ฯลฯ เพราะทรงคลุกคลีอย่างไม่ถือพระองค์
ในดวงพระชะตา จะเห็นว่า อาทิตย์ (๑) ที่หมายถึง ยศศักดิ์อัครฐานนั้น อยู่ในภพมรณะร่วมกับราหู (๘) จึงทำให้พระองค์ท่านไม่ถือพระองค์ หรือยึดติดในลาภยศสรรเสริญใด ๆ พระองค์ทรงเป็นราชนิกูลที่สูงศักดิ์ มียศถาบรรดาศักดิ์ที่สูงยิ่ง ด้วยเหตุที่อาทิตย์ (๑) แม้จะอยู่ในภพมรณะ แต่ก็แวดล้อมด้วยดาวศุภเคราะห์โอบอุ้มหน้าหลัง คือ มีศุกร์ (๖) นำหน้า พุธ (๔) ตามหลัง โดยมีแบคคัส (บ) เล็ง และด้วยเหตุที่อาทิตย์ (๑) อยู่มรณะกุมกับราหู (๘) ทำให้พระองค์ต้องตกจากตำแหน่งหน้าที่ราชการดังกล่าว