


















ควาเกี่ยงเนื่องของเทวดากับมนุษย์
ยังมีความเชื่อของนักวิชาการทางศาสตร์นี้หลายท่านที่ยังมีความเชื่อว่า ความเป็นไปได้ที่เทวดาระดับสูง หรือเทวดาทั่วไป จะมาประทับร่างที่เป็นมนุษย์ไม่มีความเป็นไปได้เพราะกลิ่นมนุษย์เน่าเหม็นและนํามาเผยแพร่บอกต่อกันมาเรื่อยๆแบบไม่มีแบบแผน
ก่อนอื่นตัวของร่างเองต้องทําความเข้าใจเสียก่อนว่าองค์ระดับ เทพไม่นับพวกสัมภเวสีอื่นๆ เทพเหล่านี้มีจริต มีบารมีมากน้อยแตกต่างกันไป โดยแบ่งแยกเป็นความสูงตําในระดับบุญญฤทธิ์และบารมีดวงตาทางธรรม ในที่นี้ข้าพเจ้าจะขอพูดเรื่องระดับขั้นของบารมีทางธรรม เป็นที่แน่นอนว่าเทพเทวดาที่เป็นองค์มีมากมาย สําเร็จทางโลกุตระ และ ณานโลกีย์ตามกําลังแตกต่างกัน คําสอนเรื่องตําราที่เป็นแบบแผนส่วนมาก จะมาจากองค์ที่มีบารมีทางธรรมระดับสูงแทบทั้งสิ้น ส่วนองค์ที่มีบารมีทางธรรมน้อยจะไม่เน้นมุ่งสอน มีหน้าที่ตรงคือช่วยเหลือมนุษย์เพื่อโปรดสัตว์และสั่งสมบุญเพียงถ่ายเดียว
คุณจะสังเกตุได้ว่าเมื่อมีการพูดคุยเรื่องร่างทรง ก็จะมีพวกหนึ่งที่มักแย้งว่า ร่างกายมนุษย์เหม็นสกปรก เทวดาไม่มาสิงเหมือนเอาหมาเน่ามาผูกติดตัวหรอกแต่เป็นที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง ที่บรรดาร่างทรงที่ประสบเหตุการณ์นี้จริง กับไม่สามารถหาคําอธิบายให้ตนเองหรือคนอื่นได้กลายเป็นปัจเจกชนที่รู้ว่าคําพูดเหล่านั้นไม่จริง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความสงสัยว่าแล้วที่เข้าๆร่างอยู่นี่เป็นวิญญาณประเภทไหน และหากว่า เป็น เทพเทวดาตามที่ระบุชื่อจริงๆทํามัยองค์ท่านถึงไม่เหม็น แล้วตําราที่สืบทอดมาเหล่านี้ทํามัยถึงยังไม่ถูกโต้แย้งจากร่างทรงนักปฏิบัติเสียที
ความจริงแล้วเทดวท่านเป็นทิพยรูป ทิพยอายตนะ ท่านไม่เหม็นหรอก เทวดาอยู่ข้างๆคัยเอาไม้หน้า3ไปหวดท่านแรงๆท่านไม่เจ็บหรอกเอาไฟไปองค์ท่านท่านก็ไม่ได้ร้อนหรอกหลักสถานะทางกายภาพขององค์คือ วิญญาณ เป็นธาตุคล้ายนิพพาน เพียงแต่ว่า ยังต้อง จุติ ยังมีสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ เป็นอารมณ์ ละสังโยชน์ไม่ได้เท่านั้นเอง ส่วนที่กล่าวว่าองค์เทพเทวดาเหม็นจึงไม่จริง การแสดงธรรมตามที่ต่างๆ การเจริญพุทธมนต์ตามงานต่างๆ ก็ยังมีการ สวดชุมนุมเทวดา แทบทั้งสิ้นบางงานคนเป็น 1000 เป็น หมื่น ถ้าเหม็นก็คงเหม็นกว่าเยอะ
ตําราที่ตกสืบทอดมาล้วนแต่เป็นกุสโลบายในการสอบอารมณ์ร่างทรง และสอนร่างทรงเท่านั้น ว่าไม่ควรยึดติดคิดว่าตัวเองมีฝฤทธิ์เดช ทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน องค์ครูท่านสอนให้ปล่อยวางในสังขาร เพราะท้ายที่สุด ร่างทรงก็เป็นเพียงแค่ มนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น เน่าเหม็นเหมือนคนที่มากราบไหว้ตน ตอนที่องค์ประทับเท่านั้น องค์ออกก็คนธรรมดา นี่เป็นคําสอนระดับโลกุตระขององค์ที่มีสัมมาทิฐิ บารมีธรรมระดับสูงแต่คนที่รับการถ่ายทอด ไม่ได้พิจรณามาเป็นอารมณ์ กลิ่นกายเลยเหม็นแบบตําราที่ถ่ายทอดมา
คาถากันเหม็น
ท่องให้บ่อย ภาวนาให้ขึ้นใจ คาถาจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่อยู่ที่คนใช้จะเข้าใจมากน้อยเพียงไรลองพิจรณาเอง คาถาบทนี้มาจากพระพุทธองค์
น ปุปฺผคนโธ ปฏิวาตเมติ
น จนฺทนํ ตครมลฺลิกา วา
สตญฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ
สพฺพา ทิสา สปฺปุริโส ปวายติ
ชุมพร จุติ อิทธิ กะระนัง สุโข ขอถวายบุญและกุศลต่อสายบารมีทั้งหมดข้าพเจ้า
บทความจากกูผู้ประกาศพระนามองค์บิดา